‘เลาตาโร มาร์ติเนซ’ วัวกระทิงผู้พางูใหญ่กลับสู่จุดสูงสุด

‘เลาตาโร มาร์ติเนซ’ วัวกระทิงผู้พางูใหญ่กลับสู่จุดสูงสุด

‘เลาตาโร มาร์ติเนซ’ จากเด็กบ้านไกลสู่กองหน้าผู้นำพาอินเตอร์ มิลานกลับสู่จุดสูงสุดของยุโรป กับเส้นทางชีวิตที่ไม่เคยยอมแพ้แม้จะคิดถอยหลังตั้งแต่เริ่ม

KEY

POINTS

  • จากเด็กชายที่คิดกลับบ้านเพราะโฮมซิก สู่ดาวรุ่งเรซซิ่ง คลับ ที่ก้าวข้ามอุปสรรคด้วยแรงบันดาลใจจากเพื่อนร่วมทีม
  • พลังบุกของ "วัวกระทิง" ผู้นี้ พาอินเตอร์ มิลานคว้าแชมป์เซเรียอาและถ้วยยุโรป พร้อมสถิติทำประตูที่เติบโตทุกฤดูกาล
  • เลาตาโรคือหัวใจในแนวรุกของทีมงูใหญ่ ด้วยทักษะที่หลากหลาย ความเฉียบคม และความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ในทุกจังหวะชีวิต

‘เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ’ คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีส่วนสำคัญในการพาสโมสรอินเตอร์ มิลานผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (UEFA Champions League) ฤดูกาล 2024-2025 เจ้าตัวเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ขีดเขียนประวัติศาสตร์เอาไว้กับสโมสรมากมาย ในขณะเดียวกัน ก็คือหนึ่งในขุนพลทีมชาติอาร์เจนติน่ายุครุ่งเรื่องกวาดแชมป์รายการเมเจอร์มามากมาย

เส้นทางบนถนนลูกหนังของ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ จะเป็นอย่างไร เรามาร่วมเดินทางไปด้วยกันครับ

ชีวิตวัยเด็ก เกือบยอมแพ้ก่อนจะเติบโตกับเรซซิ่งคลับ 

เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ (Lautaro Javier Martínez) เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1997 ที่เมืองบาเฮีย บลังกา ประเทศอาร์เจนตินา เขาเติบโตในครอบครัวที่มีสายเลือดนักฟุตบอล โดยพ่อของเจ้าตัวเคยเป็นนักเตะอาชีพในประเทศ นั่นจึงทำให้ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ได้รับแรงบันดาลใจในเส้นทางสายลูกหนังตั้งแต่วัยเยาว์

ช่วงเริ่มต้นการแข้ง เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ เข้าร่วมทีมเยาวชนของสโมสรคลับแอตเลติโก ลิเนียร์ส เด บาเฮีย บลังกา (Liniers de Bahía Blanca) ซึ่งเป็นทีมในระดับท้องถิ่นและสามารถโชว์ฟอร์มได้เข้าตา ‘ฟาบิโอ ราดาเอลลี’ กุนซือของทีมเรซซิ่ง คลับ (Racing Club) จนได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลระดับเยาวชนในช่วงเดือนมกราคม 2014

แต่เส้นทางของ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ กลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ สิ่งที่เจ้าตัวต้องต่อสู้นั้นไม่ใช่เรื่องในสนาม แต่มันคืออาการโฮมซิกที่คอยกัดกินอยู่ภายในจิตใจของกองหน้าดาวรุ่งรายนี้ ด้วยระยะห่างระหว่างสโมสรกับบ้านเกิดของเจ้าตัวนั้นห่างกันกว่า 8 ชั่วโมงหากเดินทางด้วยรถยนต์ นั่นจึงทำให้ เลาตาโร่ ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ถอดใจคิดจะเก็บข้าวของกลับบ้านเกิด

“นายจะยอมแพ้เหรอว่ะ เราจะต้องขึ้นทีมชุดใหญ่ไปด้วยกัน”
 

คำพูดของ ‘ไบรอัน แมนซิลล่า’ กองหน้าเพื่อนร่วมทีมเยาวชน ฉุดให้เด็กหนุ่มจากบาเฮีย บลังกาลุกขึ้นสู้อีกครั้งและก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีมสำรองของเรซซิ่ง คลับ จนไม่สะดุดตาแมวมองของสโมสรรีล มาดริด (Real Madrid) ยักษ์ใหญ่จากประเทศสเปน แต่ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ก็ตัดสินใจเลือกเล่นในประเทศอาร์เจนติน่า และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรเรซซิ่ง คลับ

ช่วงปี 2015-2018 เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ทำผลงานกับสโมสรเรซซิ่ง คลับได้อย่างน่าพอใจ เจ้าตัวมีโอกาสลงสนามทั้งหมด 62 นัด ทำประตูได้ทั้งหมด 27 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ (อ้างอิงข้อมูลจาก https://www.transfermarkt.com/) 

จากนั้นเส้นทางชีวิตของ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ก็เปลี่ยนไปเมื่อสโมสรอินเตอร์ มิลาน หรือ อินเตอร์นาซิอองนาล มิลาโน่ จากประเทศอิตาลี ตัดสินใจเซ็นสัญญากับเจ้าตัวด้วยมูลค่าถึง 22.7 ล้านยูโรหรือกว่า 840 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 5 ปี

วัวกระทิงแห่งอินเตอร์ มิลาน ผู้พางูใหญ่กลับสู่จุดสูงสุด

เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ย้ายเข้าร่วมสโมสรอินเตอร์ มิลาน อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2018 ก่อนจะมีโอกาสลงสนามในศึกเซเรียอา (Serie A) นัดแรกเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2018 ซึ่งเป็นเกมเปิดสนามของฤดูกาล 2018-2019 พบกับสโมสรซาสซูโอโล จากนั้นในวันที่ 29 กันยายน 2018 เจ้าตัวก็สามารถยิงประตูแรกได้ในเกมพบกับสโมสรกายารี่ โดยในฤดูกาลแรก เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ลงสนามในฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศอิตาลีไป 27 แมตช์ ระยะเวลารวม 1,335 นาที ทำได้ 6 ประตู

ฤดูกาลต่อมา เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ได้มีโอกาสร่วมงานกับ ‘โรเมลู ลูกากู’ และเจ้าตัวก็สามารถยกระดับฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างน่าทึ่ง โดยกองหน้าชาวอาเจนไตน์มีโอกาสลงสนามในฟุตบอลลีกไป 35 แมตช์ทำประตูได้ 14 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ พร้อมพาสโมสรอินเตอร์ มิลานคว้ารองแชมป์เซเรียอา
 

ขณะที่ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปรายการยูโรปา ลีก (Europa League)  เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ก็มีส่วนร่วมในการพาสโมสรผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศและคว้ารองแชมป์มาครองได้ โดยเจ้าตัวลงสนามไป 5 แมตช์ ทำประตูได้ 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2020-2021 เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวหลักของสโมสรอินเตอร์ มิลาน และก็พาทีมงูใหญ่คว้าถ้วยสคูเด็ตโตมาครองได้โดยเจ้าตัวสร้างสถิติลงสนามในเซเรียอาครบทั้ง 38 แมตช์และทำประตูได้ทั้งหมด 17 ประตู 10 แอสซิสต์ และแชมป์ดังกล่าวคือแชมป์แรกในชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ

ในฤดูกาลถัดมา เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ก็ต้องพบกับความท้าทายใหม่ เมื่อสโมสรอินเตอร์ มิลาน มีการเปลี่ยนแปลงกุนซือจาก ‘อันโตนิโอ คอนเต้’ มาเป็น ‘ซิโมเน่ อินซากี’ และก็ปล่อยตัว ‘โรเมลู ลูกากู’ ออกจากสโมสรไป นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผลงานของยอดทีมจากอิตาลีต้องตกลง เพราะพวกเขามีกองหน้าฟอร์มเฉียบอย่าง เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ อยู่โดยเจ้าตัวลงสนามในเซเรียอา 35 แมตช์ ทำได้ 21 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ พาทีมคว้ารองแชมป์

ขณะที่ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยอย่างโคปปา อิตาเลีย (Coppa Italia) เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ก็ลงสนามไป 5 แมตช์และทำประตูได้ 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ พาอินเตอร์ มิลานคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ โดย 2 ประตูที่เจ้าตัวทำได้นั้นเกิดขึ้นในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศกับสโมสรเอซี มิลาน

เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ เป็นกองหน้าที่สโมสรอินเตอร์ มิลานจะขาดไปไม่ได้ ในฤดูกาล 2022-2023 แม้ผลงานของทีมงูใหญ่ในเซเรียอาจะได้เพียงอันดับที่ 3 แต่กองหน้าชาวอาเจนไตน์ก็สามารถทำได้ถึง 21 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 38 แมตช์ อีกทั้ง เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ยังเป็นกำลังสำคัญพาสโมสรคว้ารองแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (UEFA Champions League) และคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย (Coppa Italia) ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

จุดสูงสุดของ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ กับสโมสรอินเตอร์ มิลาน เกิดขึ้นในฤดูกาล 2023-2024 เมื่อเจ้าตัวสามารถพาสโมสรอินเตอร์ มิลานกลับมาคว้าแชมป์สคูเด็ตโตได้อีกครั้ง พร้อมทั้งคว้าตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของศึกเซเรียอาไปครองด้วยสถิติลงสนาม 33 แมตช์ ทำได้ 24 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ 

เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ เป็นกองหน้าที่มีความรวดเร็ว คล่องตัว ขยัน ทักษะฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมสามารถเล่นและทำประตูได้ทั้งเท้าซ้ายและขวา รวมทั้งมีสัญชาตญาณที่เฉียบขาดดุดันในการจบสกอร์ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เจ้าตัวจะได้รับฉายาว่า ‘เอลโตโร่’ หรือวัวกระทิง

ล่าสุดในฤดูกาล 2024-2025 แม้ว่า เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ จะทำได้เพียง 12 ประตูในเซเรียอาไม่อาจป้องกันแชมป์สคูเด็ตโตได้ แต่เจ้าตัวก็ชดเชยด้วยผลงานกว่า 9 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ พาสโมสรอินเตอร์ มิลานผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (UEFA Champions League) พบกับสโมสรปารีส แซ็ง แฌร์แม็ง จากประเทศฝรั่งเศส

คว้าแชมป์เมเจอร์ร่วมกับทัพฟ้าขาว

หนึ่งในขุนพลชุดประวัติศาสตร์ที่โลกไม่ควรลืม

สำหรับเส้นทางสายทีมชาติของ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ นั้น คงเลี่ยงที่จะอยู่ภายใต้ร่มเงาของ ‘ลิโอเนล เมสซี’ ไม่ได้ แม้ผลงานกับทัพฟ้าขาวของเจ้าตัวจะไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับผลงานในสโมสรอินเตอร์ มิลาน แต่ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่สร้างผลงานพาทีมชาติอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก (FIFA World Cup) และฟุตบอลโคปาอเมริกา (Copa América) มาแล้ว

เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ติดทีมชาติอาเจนติน่าครั้งแรกในเกมฟุตบอลนัดกระชับมิตรกับทีมชาติสเปน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2018 โดยถูกส่งลงสนามแทน ‘กอนซาโล อิกวาอิน’ ส่วนประตูแรกของเจ้าตัวในนามทีมชาติเกิดขึ้นในนัดกระชับมิตรกับทีมชาติอิรัก เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2018

จากนั้นในปีต่อมา เลาตาโร่ ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ก็มีโอกาสลงสนามให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าในรายการเมเจอร์อย่างโคปาอเมริกา 2019 ที่ประเทศบราซิลเป็นเจ้าภาพ โดยเจ้าตัวสามารถทำได้ 2 ประตูในแมตช์พบกับทีมชาติกาตาร์และทีมชาติเวเนซุเอลา ก่อนที่จะคว้าอันดับที่ 3 ร่วมกับทัพฟ้าขาว

ชื่อของ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ถูกบรรจุอยู่ในแข้งทีมชาติอาร์เจนติน่าอย่างต่อเนื่องทั้งฟุตบอลกระชับมิตรและฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก รวมทั้งฟุตบอลโคปาอเมริกา 2021 ที่ประเทศบราซิลได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้ง และในปีนี้เองที่ชื่อของ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ได้เฉิดฉาย เมื่อเจ้าตัวทำได้ 3 ประตูพร้อมคว้าแชมป์ทวีปร่วมกับทีมชาติอาร์เจนติน่า เป็นการนับหนึ่งสู่เกียรติยศอันยิ่งใหญ่กับทีมฟ้าขาว

หลังจากนั้น เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ก็เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติอาร์เนติน่าใน ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก เบ็ดเสร็จแล้วเจ้าตัวทำไปกว่า 7 ประตูพาทัพฟ้าขาวเดินทางสู่ประเทศกาตาร์ได้สำเร็จ ซึ่งแม้ว่าในรอบสุดท้าย เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ จะไม่ได้มีโอกาสเฉิดฉายมากนัก แต่ชื่อของเจ้าตัวก็ถูกจารึกไว้ในฐานะแชมป์โลกกับทีมชาติอาร์เจนติน่า

ล่าสุดในการแข่งขันฟุตบอลโคปาอเมริกา 2024 เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ก็กลายเป็นฮีโร่ของทัพฟ้าขาวเมื่อเจ้าตัวสามารถคว้าตำแหน่งดาวยิงสูงสุดมาครองได้ด้วยผลงาน 5 ประตู และหนึ่งในนั้นคือประตูโทนที่เจ้าตัวรับบอลก่อนกระชากเข้ากรอบเขตโทษแล้วซัดบอลผ่านมือ ‘คามิโล วาร์กัส’ ผู้รักษาประตูทีมชาติโคลอมเบียเข้าไปอย่างสวยงามในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ

ประตูดังกล่าวทำให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโคปาอเมริกา 2024 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และล่าสุด เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ ยังคงร่วมทัพฟ้าขาวลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก และเจ้าตัวยังคงทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี 

และนี่คือเรื่องราวของ เลาตาโร ฆาบิเอร์ มาร์ติเนซ กองหน้าระดับดาวยิงสูงสุดศึกเซเรียอา (Serie A) ของสโมสรอินเตอร์ มิลานและทีมชาติอาร์เจนติน่า เส้นความสำเร็จต่อไปของเจ้าตัวจะเป็นอย่างไร เราต้องมาร่วมติดตามไปด้วยกันครับ

 

เรื่อง: ธิษณา ธนคลัง (The Sportory)